บริษัท สตาร์ท คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยงบการเงินจากการดำเนินงานประจำปี 2565 ภายหลังขอเลื่อนส่งมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 66 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมีผลขาดทุน 6,651.1 ล้านบาท เป็นการขาดทุนเพิ่มขึ้น 11.04% จากปีก่อน และมีรายได้รวม 25,725.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.57% จากปีก่อน
โดยสาเหตุหลักเป็นผลมาจากการขาดทุนจากการดำเนินงาน การตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์และเงินลงทุน ผลขาดทุนด้านเครดิต รวมถึงขาดทุนจากสินค้าสูญหาย
STARK ร้อง “ดีเอสไอ” หาตัวการทุจริตมาลงโทษ ติดตามทรัพย์สินกลับคืนมา
STARK ระทึก เจ้าหนี้หุ้นกู้อีก 3 ชุด นัดประชุมลงมติเรียกชำระเงิน 6,957 ล้านบาท
ก.ล.ต.สอบเอาผิด STARK ประสาน ดีเอสไอ-บก.ปอศ.-ปปง. ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้
ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 34,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน และมีหนี้สิน 38,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8% จากปีก่อน ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 4,403 ล้านบาท (มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน)
ขณะเดียวกันผู้บริหารชุดใหม่ พบข้อผิดพลาดหลายประการในงบการเงินปี 2564 ทำให้ต้องทำการปรับตัวเลขเปรียบเทียบย้อนหลัง ส่งผลให้ปี 2564 บริษัทมีผลขาดทุน 5,989.3 ล้านบาท จากเดิมที่มีกำไร 2,794.9 ล้านบาท และมีรายได้ 19,055 ล้านบาท จากเดิมที่มีรายได้ 25,213.1 ล้านบาท
เปิดธุรกรรมผิดปกติ STARK ปลอมยอดขาย โอน 1 หมื่นล้าน ให้บริษัทรายเดียว
อย่างไรก็ตาม STARK ระบุว่า บริษัทตระหนักถึงผลกระทบอย่างรุนแรงจากข้อมูลความจริงที่เปิดเผย และนำเสนอในงบการเงินดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการและคณะผู้บริหารชุดใหม่ของบริษัท กำลังเร่งดำเนินการร่วมกับเจ้าหนี้สถาบันการเงินอย่างเร่งด่วน เพื่อหาทางแก้ปัญหาให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเร่งแก้ไขสาเหตุหลักที่ทำให้ประสบภาวะขาดทุนหนัก และปรับปรุงการบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายใน ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีกคำพูดจาก เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์
ล่าสุดหุ้น STARK เมื่อวานนี้ 16 มิ.ย.66 ราคาปิดตลาดอยู่ที่ 0.08 ต่อหุ้น มูลค่าปรับลดลงมากว่า 96% นับตั้งแต่ต้นปี 66
ผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ในระยะแรก
บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK สรุปผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษในระยะแรก (Special Audit) ในระยะแรก พบมีรายการขายผิดปกติจำนวน 202 รายการ คิดเป็นมูล่า 8,063 ล้านบาท และ 3,893 ล้านบาท ในปี 2565 และ 2564 ตามลำดับ มีลักษณะการจ่ายเงินไม่ปกติ ปลอมแปลงชื่อผู้จ่าย และจ่ายเงินจากบัญชีจากบัญชีของอดีตเจ้าหน้าที่ของบริษัทแทนลูกค้า ทั้งนี้ยังพบว่ามีสินค้าคงเหลือผิดปกติ ที่ยอดติดลบในระบบสารสนเทศของบริษัท 3,140 รายการ
ขณะเดียวกัน บริษัทพบการจ่ายเงินล่วงหน้าค่าสินค้าผิดปกติ โดยบริษัทได้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารพาณิชย์ในไทย ไปให้ผู้ขายวัตถุดิบในต่างประเทศด้วยสกุลเงินบาท เป็นเงินมูลค่า 7,976 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดที่ผิดปกติอย่างมาก เนื่องจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทไม่เคยจ่ายเงินค่าสินค้าจำนวนมากเช่นนี้มาก่อน
อ่านรายละเอียดเต็มต้นฉบับ :คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2565