Wed. Oct 16th, 2024

สำนักวิจัยรุมหั่นจีดีพีไทยปี 67 โตแค่ระดับ 3% หลายปัญหารุมเร้า

จีดีพีไทยไตรมาส 3 โตต่ำ 1.5% จากส่งออกหดตัวหนัก ฉุดภาคการผลิตวูบ

สภาพัฒน์ แนะปรับโครงสร้างใหม่เศรษฐกิจไทย หนุนโตระยะยาว มองเงินดิจิทัลยังไม่ชัด

โดยเริ่มจาก วิจัยกรุงศรี ประเมินเศรษฐกิจไทย ปี 2567 จะขยายตัวที่ 3.4% ไม่รวมมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ซึ่งปัจจัยหลักจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว คาดแตะ 35.6 ล้านคน สนับสนุนการบริโภคภาคเอกชนเติบโตต่อเนื่อง การใช้จ่ายภาครัฐจะมีบทบาทมากขึ้นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายหลังจากการอนุมัติพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีวงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท และการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะเติบโตดีขึ้น

ทั้งนี้ยังมีปัจจัยกดดัน จากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงท่ามกลางต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับเพิ่ม ผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจรุนแรงขึ้น รวมทั้งปัญหาเชิงโครงสร้างเช่น ประชากรสูงวัย การขาดแคลนแรงงาน และความสามารถในการแข่งขันที่ลดลงในหลายอุตสาหกรรม

ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศ ได้แก่ ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยในหลายประเทศที่สูงสุดในรอบกว่าสองทศวรรษที่อาจกดดันเศรษฐกิจและภาคการเงินในประเทศแกนหลักของโลก การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจขยายวงกว้าง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินเศรษฐกิจไทย ปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3.1% จากภาครัฐบาลทั้งทางการลงทุนและการบริโกค และการส่งออกสินค้าที่คาดว่าขยายตัว จำนวนนักท่องเที่ยวที่น่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 30.6 ล้านคน และหากรวมกับมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะโตได้ 3.6%

ทั้งนี้ ในบริบทที่การค้าโลกมีนโยบายกีดกันการค้ายังเข้มข้นอยู่ และอุตสาหกรรมรถยนต์ที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงจากรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมมากขึ้น จะก่อให้เกิดโอกาสที่ประเทศไทยจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคได้ และการที่ประเทศไทยน่าจะได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตในอุตสาหกรรมอื่นๆ อาทิเช่นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จะทำให้เรามีเครื่องจักรใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินเศรษฐกิจไทย ปี 2567 จะขยายตัวที่ 3.0% ตามการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนที่กลับมาขยายตัวดีขึ้น แต่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ช้า และขยายตัวต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ เนื่องการชะลอลงของการบริโภคภาคเอกชน รายได้ครัวเรือนฟื้นไม่ทั่วถึงและหนี้สูง โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อย นักท่องเที่ยวฟื้นตัวช้า และการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวช้าจากความล่าช้าของ พร.บ.งบประมาณปี 67

นอกจากนี้เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงด้านต่ำจากเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวไม่สูง ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจรุนแรงขึ้น และความเสี่ยงระบบการเงินจากดอกเบี้ยสูง

แต่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในระยะยาวยังน่าห่วง โดยฟื้นตัวช้าจากศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยต่ำลงจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมา เช่น การลงทุนและผลิตภาพการผลิตต่ำ และเปราะบางจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจสูง โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยที่ฟื้นตัวช้า รวมถึงความไม่แน่นอน จากความเสี่ยงที่จะกระทบเศรษฐกิจไทยมีมากขึ้น ทั้งจากเศรษฐกิจโลก ปัญหาสภาพอากาศ และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี67 จะขยายตัวประมาณ 3% ลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 3.6% เนื่องจากยังมีความท้าทาย 3 ปัจจัย คือ

– การส่งออกฟื้นตัวได้จำกัด จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงยาวนาน ซึ่งเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจชัดเจนขึ้นในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจจีนจะเติบโตช้าลงและอาจขยายตัวไม่ถึง 5% จากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์

– นักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวช้ากว่าคาด ซึ่งเศรษฐกิจจีนยังมีความเปราะบาง และจีนมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยจากการท่องเที่ยวในไทย ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 32.9 ล้านคน

– นโยบายการเงินของไทยที่ตึงตัว ภายหลังจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตลอดปี 2566 ส่งผลต่อต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจและครัวเรือน ขณะเดียวกันยังต้องติดตามมาตรการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบของธปท.ที่เน้นเรื่องวินัยการไม่สร้างหนี้เกินกำลัง โดยจะบังคับใช้ในเดือน ม.ค. 2567 ซึ่งอาจกระทบต่อการเข้าถึงสินเชื่อในระบบของครัวเรือน

อย่างไรก็ตาม Krungthai COMPASS คาดการณ์ว่าหากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต สามารถดำเนินการได้เต็มวงเงิน 5 แสนล้านบาท จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ถึง 4%

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) มองว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวได้ 3.1% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 3.2% ปัจจัยหลังมาจากการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะจากมาตรการลดภาระค่าครองชีพครัวเรือนและกระตุ้นการบริโภคในภาพรวม รวมถึงมูลค่าการส่งออกสินค้าคาดว่าจะพลิกกลับมาขยายตัวจากอานิสงส์ของฐานต่ำในปี

อย่างไรก็ตามการลงทุนภาครัฐในปี 2567 มีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง หลังการลงทุน Mega Project โครงการใหม่ ๆ คาดว่าจะล่าช้าออกไปจากกรอบปีงบประมาณปกติราว 6 เดือน จากความล่าช้าในกระบวนการการจัดทำ พ.ร.บคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. งบประมาณปี 67

ขณะเดียวกันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่ามีแนวโน้มต่ำกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยน้อยกว่าคาด รวมถึงจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ยังไม่กลับเข้าสู่ระดับปกติ แม้ว่าจะมีนโยบายการยกเว้นการขอวีซาเข้าประเทศไทยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ (Visa Free) แต่อาจยังไม่เพียงพอที่จะทดแทนนักท่องเที่ยวจีนได้

เคลียร์ดราม่าเติมน้ำมันไม่เต็มลิตร ส่งดำเนินคดีเติมเกิน-เติมขาด

เจ้ากรมการข่าวทหาร หมดสติในรถกลางถนนวิภา จนท.ทุบกระจกช่วยชีวิต

บุกช่วยเสือ 15 ตัว จากสวนสัตว์เอกชนปิดตัวหลังโควิด ปล่อยเสือป่วย-ผอมโซ

 สำนักวิจัยรุมหั่นจีดีพีไทยปี 67 โตแค่ระดับ 3% หลายปัญหารุมเร้า

By admin

Related Post