หากใครยังจำกันได้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่ประเทศญี่ปุ่นเกิดดราม่าครั้งใหญ่ หลังมีวัยรุ่นจำนวนหนึ่งทำคอนเทนต์ลงทวิตเตอร์และ TikTok ในลักษณะที่เป็นการ “ก่อการร้ายซูชิ” โดยตระเวนป่วนร้านซูชิสายพานหลายแห่ง ด้วยการเอาน้ำลายป้ายบนซูชิ แอบเลียหรือดื่มซอสชุโยจากขวดโดยตรง บางคนก็ฉีดพ่นแอลกอฮอล์บนจานซูชิที่กำลังเลื่อนไปบนสายพาน
หนึ่งในร้านซูชิสายพานที่เจอกลุ่มวัยรุ่นป่วนคือร้านซูชิในเครือของ “ซูชิโระ” (Sushiro) ผู้ประกอบการร้านซูชิสายพานรายใหญ่ของญี่ปุ่น
มีรายงานว่า บริษัท อะคินโด ซูชิโระ ซึ่งเป็นเจ้าของเครือซูชิโระ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงโอซาก้าเมื่อวันที่ 22 มีนาคม เอาผิดวัยรุ่นรายหนึ่งซึ่งไปที่ร้านซูชิโระสาขาหนึ่งในจังหวัดกิฟุกับเพื่อนเมื่อวันที่ 3 มกราคม และถ่ายคลิปเลียขวดซอสถั่วเหลืองที่เปิดอยู่และถ้วยชาที่ไม่ได้ใช้แล้ว รวมถึงเอานิ้วเปื้อนน้ำลายไปแตะจานซูชิด้วย
วิดีโอดังกล่าวถูกอัปโหลดขึ้นโซเชียลมีเดียวันที่ 29 มกราคม และทำให้ร้านซูชิโระมีลูกค้าลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากที่มีการแชร์คลิปดังกล่าวออกไปอย่างกว้างขวาง
เอกสารคำฟ้องระบุว่า วิดีโอดังกล่าวทำให้ร้านสูญเสียรายได้ และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทแม่ลดลงมากกว่า 1.6 หมื่นล้านเยน (3.9 พันล้านบาท) ด้วยเหตุนี้ จึงยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 67 ล้านเยน (16.6 ล้านบาท) ต่อวัยรุ่นรายนี้
ด้านวัยรุ่นผู้ก่อเหตุยอมรับว่า ได้เลียของที่ต้องใช้ร่วมกันในร้านซูชิและแสดงความสำนึกผิด แต่ในขณะเดียวกันก็โต้แย้งว่า คลิปที่ถ่ายมีไว้เพื่อแบ่งปันในหมู่เพื่อนของเขาเท่านั้น และเขาไม่มีเจตนาที่จะนำวิดีโอเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์คำพูดจาก สล็อต888
พวกเขายังอ้างว่าการกระทำของพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่ชัดเจนต่อการที่ลูกค้าของซูชิโระลดลง แต่เกิดจากการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างร้านซูชิต่างหาก
เรียบเรียงจาก Kyodo News
ภาพจาก AFP
